การขึ้นรูปโลหะคืออะไร (What Is Metal Forming?)

การขึ้นรูปโลหะคืออะไร

            การขึ้นรูปโลหะ (Metal Forming) เป็นหนึ่งในรูปแบบของการผลิตชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ ชิ้นส่วนดังกล่าวมักผลิตจากโลหะ (Metal Parts or Components) การขึ้นรูปโลหะเป็นการเปลี่ยนรูปร่างของวัสดุโลหะ (Metal Deformation) ให้เป็นรูปทรงตามที่ต้องการแบบถาวรและตามวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้งาน การขึ้นรูปโลหะจะทำในสภาวะที่วัตถุดิบที่นำใช้สำหรับขึ้นรูปชิ้นงานยังอยู่ในสถานะของแข็ง (Solid) วิธีการผลิตเช่นนี้ไม่ทำลายคุณสมบัติของโลหะที่มีอยู่เดิม เป็นเพียงกระบวนการเปลี่ยนแปลงรูปร่างของโลหะเท่านั้น ทั้งนี้การขึ้นรูปโลหะแบบเปลี่ยนรูปร่างแบบถาวรจะแตกต่างจากการกลึงปาดหน้า (Machining Process) และงานหล่อโลหะ (Casting Process) ทั้งการกลึงปาดหน้าและงานหล่อโลหะต่างเป็นวิธีขึ้นรูปโลหะที่ต้องเปลี่ยนแปลงสถานะของวัตถุโลหะ การตัดกลึงปาดหน้าเป็นการผลิตที่มีการเสียเศษของโลหะ ส่วนงานหล่อโลหะเป็นการผลิตที่มีการเปลี่ยนสถานะของโลหะจากของแข็งเป็นของเหลว

การขึ้นรูปโลหะ
การขึ้นรูปโลหะ
ผลงาน

การขึ้นรูปโลหะเป็นหนึ่งในวิธีการผลิตชิ้นส่วนและส่วนประกอบของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์

      การขึ้นรูปโลหะ (Metal Forming) คือหนึ่งในกระบวนการผลิตชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้มากที่สุดในโลก เป็นกระบวนการแปรรูปโลหะแผ่นหรือโลหะก้อน (Metal Sheet or Bulk) ให้เป็นชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ (Structural Parts and Components) ด้วยแม่พิมพ์ (Die or Forming Tools) ในกระบวนการขึ้นรูป โลหะแผ่นหรือโลหะก้อนจะเป็นวัสดุหรือวัตถุดิบตั้งต้นของการผลิตชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบ   

             การดัดหรือพับเพื่อเปลี่ยนรูปชิ้นงานจากโลหะ (Bending or Deforming Metal Workpiece) เป็นวิธีพื้นฐานของกระบวนการขึ้นรูปโลหะ (Basic Metal Forming) ให้เป็นชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ตามรูปร่างที่ต้องการ ที่จริงแล้วการขึ้นรูปโลหะไม่ได้เป็นเพียงแค่รากฐานของการผลิตสำหรับอุตสาหกรรมสมัยใหม่ แต่ยังเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญในตัวเอง กล่าวคือ มีการคาดการณ์กันว่า กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์สร้างมูลค่าในส่วนของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP – Gross Domestic Products) ให้แก่ประเทศอุตสาหกรรม (Industrialized Countries) ประมาณ 15 – 20 เปอร์เซ็นต์ต่อปี นอกจากนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมประเภทนี้มีความต้องการใช้วัตถุดิบประเภทโลหะเป็นจำนวนหลายล้านตันต่อปี

            กระบวนการขึ้นรูปโลหะเป็นกระบวนการผลิตที่สามารถผลิตชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ได้ในปริมาณมากสำหรับใช้ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น อุตสาหกรรมอวกาศ (Aerospace) อุตสาหกรรมยานยนต์ (Automotive) อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า (Appliances) อุตสาหกรรมทางการเกษตร (Agriculture) ผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์ (Consumer Electronics) โทรคมนาคม (Telecommunications) การขนส่งทางรางและทางทะเล (Rail and Marine) และอุตสาหกรรมปิโตรเคมี (Petrochemical Industries) เป็นต้น

ความรู้เกี่ยวกับการขึ้นรูปโลหะพื้นฐาน (Knowledge of Basic Metal Forming)

            การขึ้นรูปโลหะเป็นคำที่ใช้กันอย่างกว้าง ๆ ซึ่งการขึ้นรูปโลหะเป็นกระบวนการที่ยังต้องอาศัยอีกหลายกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้ชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโลหะตามที่ต้องการ อย่างไรก็ดี คุณลักษณะอย่างหนึ่งที่ทุกกระบวนการของการขึ้นรูปโลหะมีเหมือนกัน คือ การเปลี่ยนรูปร่างของวัตถุดิบ (Raw Materials) ให้เป็นชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบตามสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ

            การเปลี่ยนรูป (Reshaping) เป็นรูปแบบการขึ้นรูปโลหะที่ต้องใช้กระบวนการเชิงกลในการดำเนินงาน (Mechanical Process) ซึ่งเป็นหลักเดียวกันกับหลักวัสดุศาสตร์ (Material Sciences) ซึ่งหลักการนี้ถูกนำมาใช้เป็นแนวทางพื้นฐานในการเปลี่ยนรูปร่างวัสดุ (Plastic Deformation) สำหรับการเปลี่ยนรูปร่างวัสดุ จะใช้แรงขึ้นรูปที่สูงกว่าความเค้นครากของวัสดุ (Yield Strength) และต้องใช้เครื่องปั๊มโลหะที่มีความสามารถสูง และเมื่อวัตถุดิบหรือวัสดุโลหะถูกนำมาขึ้นรูปหรือเปลี่ยนรูปแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนวัสดุโลหะเหล่านั้นให้กลับมาอยู่ในรูปเดิมได้อีก

             การเปลี่ยนรูปร่างวัสดุโลหะ หมายถึง การดัด/พับ (Bending) การยืด (Stretching) หรือการอัด (Compressing) วัสดุโลหะให้ได้ตามรูปร่างที่ต้องการ และเป็นการเปลี่ยนรูปแบบถาวร การจะเปลี่ยนรูปร่างของวัสดุโลหะต้องอาศัยความเค้น (Stress) หากต้องการเปลี่ยนรูปร่างของชิ้นงานแบบถาวรต้องใช้แรงเค้นที่ระดับค่าความเค้นสูงสุด (Proportional Limit of Stress) หรือกระบวนการขึ้นรูปโลหะ (Metal Forming)

การขึ้นรูปโลหะ
การขึ้นรูปโลหะ
การขึ้นรูปโลหะ
การขึ้นรูปโลหะ

การขึ้นรูปโลหะพื้นฐานมีวิธีการอย่างไร (How Does Metal Forming Work?)

การขึ้นรูปโลหะพื้นฐานมีวิธีการอย่างไร

            การขึ้นรูปโลหะจะให้ความสำคัญกับระดับค่าความเค้นของวัสดุที่นำมาใช้ในการเปลี่ยนรูปร่าง หรือเปลี่ยนวัสดุโลหะให้เป็นรูปแบบของชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบตามที่ต้องการเพื่อนำไปใช้ในการผลิตเชิงอุตสาหกรรมต่อไป การดำเนินการขึ้นรูป วัสดุโลหะจะต้องผ่านการดึงหรืออัดก่อน (Tension or Compression) หรือทั้งสองอย่าง เช่น การขึ้นรูปโลหะด้วยวิธีการการดัดหรือพับ (Bending) เป็นต้น ในช่วงของกระบวนการขึ้นรูป มวลของโลหะจะไม่หายไป มีเพียงรูปร่างของโลหะเท่านั้นที่เปลี่ยน หากต้องการให้การขึ้นรูปโลหะประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี วัสดุที่นำมาใช้ต้องมีคุณสมบัติเชิงกล เช่น สามารถนำมายืด อัด หรือดัด/พับได้ อย่างไรก็ดี หากวัสดุที่จะนำมาใช้ในการขึ้นรูปไม่ได้มาตรฐานหรือขาดคุณสมบัติตามที่กล่าวมา อาจทำให้เกิดการฉีกขาด เป็นรอยย่น หรือความเสียหายอื่น ๆ ในระหว่างการขึ้นรูปโลหะได้ กระบวนการขึ้นรูปโลหะยังต้องคำนึงถึงความสมดุลระหว่างความแข็งแรงของวัสดุ (Strength of the Materials) กับความสามารถในการขึ้นรูป (Formability) ของวัตถุดิบหรือวัสดุโลหะที่นำมาใช้ในการขึ้นรูป

            สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตจะมีกระบวนการขึ้นรูปโลหะหลายวิธีที่สามารถนำมาใช้กับรูปแบบการผลิตชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบในปริมาณมาก (Mass Production) กระบวนการที่มักนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ได้แก่ การดัดหรือการพับโลหะ (Bending) การยืดโลหะ (Stretching) การลากขึ้นรูปโลหะ (Deep Drawing) และการรีดขึ้นรูปโลหะ (Roll Forming)

            การดัดหรือการพับโลหะ (Bending) คือ กระบวนการขึ้นรูปโลหะที่มีความยืดหยุ่นเป็นองค์ประกอบ การดัดหรือพับโลหะต้องใช้เครื่องพับโลหะ (Brake Press) หรือเครื่องปั๊มโลหะประเภทเดียวกันกับเครื่องพับโลหะ (Press Machine) ขั้นตอนการดัดหรือพับสำหรับขึ้นรูปโลหะ แผ่นโลหะจะถูกนำมาขึ้นรูปด้วยการตอกวัสดุโลหะอัดกับแม่พิมพ์ (Punch Press) ซึ่งวัสดุโลหะจะถูกนำมาวางไว้บนแม่พิมพ์ (Die) ซึ่งการตอกวัสดุโลหะเช่นนี้จะไม่ใช่การตอกเพื่อทำให้เกิดรู แต่เป็นการสร้างแรงดัดหรือแรงพับ (Bending Force) เพื่อเปลี่ยนรูปร่างของวัสดุโลหะตามแม่พิมพ์

            การยืดโลหะ (Stretching) เป็นกระบวนการขึ้นรูปโลหะอีกประเภทหนึ่ง กระบวนการนี้จะยืดและดัด/พับชิ้นงานไปพร้อมกันด้วยแม่พิมพ์ (Die) กระบวนการขึ้นรูปวิธีนี้จะใช้กับงานขึ้นรูปชิ้นส่วนที่มีขนาดใหญ่หรือมีสถานะซับซ้อน สำหรับการขึ้นรูปชิ้นงานแผ่น (Sheet Deformation) ด้วยวิธีนี้ต้องอาศัยความเครียดในแนวรัศมี (Radial Strain) รวมถึงรัศมีการดัดโค้ง (Bend Radius) ที่มากที่สุด

            การลากขึ้นรูปโลหะ (Deep Drawing) เป็นกระบวนการขึ้นรูปโลหะที่นิยมใช้กันทั่วไป กระบวนการนี้แผ่นโลหะจะถูกหนีบให้อยู่ตรงช่องว่างของได (Shape of Die Cavities) เพื่อขึ้นรูปชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบแบบรูกลวง (Hollow Shaped Components) หลังจากนั้น แม่พิมพ์จะเคลื่อนตัวลงเพื่อลากแผ่นโลหะเข้าช่องว่าง การขึ้นรูปโลหะด้วยวิธีนี้จะใช้ความทนต่อแรงดึง (Tensile Strength) ในการการเปลี่ยนแปลงรูปร่างภายนอกของแผ่นโลหะ (External Shape)     

            การรีดขึ้นรูปโลหะ (Roll Forming) คือกระบวนการขึ้นรูปของโลหะด้วยการรีดแบบต่อเนื่อง และเมื่อโลหะเข้าสู่เครื่องรีดขึ้นรูป ตัวรีดแต่ละคู่จะทำหน้าที่ขึ้นรูปและดัดหรือพับโลหะแผ่น (Sheets) หรือขึ้นลายโลหะ (Stripes) จะทำการดัดหรือพับโลหะแผ่นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ แบบค่อยเป็นค่อยไป โดยทั่วไปการรีดขึ้นรูปมักถูกนำมาใช้ในการผลิตชิ้นส่วนที่มีความยาวมาก ๆ ในปริมาณมาก   

เหล็ก
อลูมิเนียม
โลหะที่นิยมนำมาใช้ในกระบวนการขึ้นรูปมากที่สุด

             เนื่องจากการขึ้นรูปโลหะเป็นกระบวนการผลิตที่เหมาะกับการผลิตชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ในปริมาณมาก ดังนั้น โลหะที่สามารถนำมาใช้ในการขึ้นรูปจึงมีมากมายและหลากหลาย แต่ที่นิยมนำมาใช้ในกระบวนการขึ้นรูปมากที่สุด ได้แก่ เหล็กกล้าไร้สนิม (Stainless Steel) เหล็กกัลป์วาไนซ์หรือเหล็กกล้าเคลือบสังกะสี (Galvanized Steel) อลูมิเนียม (Aluminum) ทองเหลือง (Brass) และทองแดง (Copper) ปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญในการเลือกใช้โลหะสำหรับกระบวนการขึ้นรูป คือ รูปร่างของชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบที่ต้องการ ความแข็งแรง และคุณสมบัติเชิงกลในการนำไปใช้งาน

การขึ้นรูปโลหะ
การขึ้นรูปโลหะ
การขึ้นรูปโลหะ

สรุป:

           การขึ้นรูปโลหะคือการเปลี่ยนวัสดุโลหะให้เป็นชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบตามรูปร่างที่ต้องการ เมื่อวัสดุโลหะถูกนำมาขึ้นรูปแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนกลับคืนรูปเดิมได้ เพราะการขึ้นรูปโลหะเป็นการเปลี่ยนรูปร่างของโลหะอย่างถาวร การขึ้นรูปโลหะเป็นกระบวนการเปลี่ยนรูปร่างอย่างเดียวเท่านั้น ไม่สามาถเปลี่ยนสถานะหรือทำลายคุณสมบัติของวัสดุโลหะได้

           วิธีที่นิยมใช้ในกระบวนการขึ้นรูปโลหะ คือ การดัดหรือการพับ (Bending) การยืด (Stretching) การลากขึ้นรูป (Deep Drawing) และการรีดขึ้นรูป (Roll Forming) ซึ่งจะเลือกใช้วิธีใดในการขึ้นรูปโลหะต้องพิจารณาถึงลักษณะของชิ้นส่วนหรือส่วนประกอบที่ต้องการผลิตเป็นหลัก ทั้งนี้วัสดุที่นำมาใช้ในการขึ้นรูปต้องมีคุณสมบัติเชิงกลที่สามารถนำมายืด อัด หรือดัด/พับได้

_________________________________________

             บริษัท ศิรินครโลหะกิจ จำกัด เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วน ส่วนประกอบอะไหล่รถทุกประเภท และรับผลิตชิ้นส่วนและส่วนประกอบตามความต้องการ (Made-to-Order) เป็นเวลากว่า 30 ปี เชี่ยวชาญการผลิต ออกแบบชิ้นส่วน และส่วนประกอบด้วยงานปั๊ม งานพับ งานตัด งานกลึง และงานเชื่อม พร้อมเข้ารูปด้วยเทคโนโลยีหุ่นยนต์และเครื่องจักรสมัยใหม่ พร้อมช่างมืออาชีพ

Facebook : ศิรินครโลหะกิจ

Line : @sirinakorn (พิมพ์@ด้วย)

ผลงาน
ผลงาน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *